--------------------------------------------------------------
|
อยู่ห่างจากที่ทำการอุทยานฯ ประมาณ 54 กม. ตามทางหลวงหมายเลข 323 ตรงหลัก กม.ที่ 63 เลี้ยวขวาเข้าไปประมาณ 2 กม. ถึงหน่วยพิทักษ์อุทยานฯ (วังบาดาล) แล้วเดินทางต่อไปอีก 1 กม. จะถึงปากถ้ำลักษณะของถ้ำวังบาดาล เช่น ถ้ำหินปูนขนาดใหญ่ ปากทางเข้าเป็นห้องเล็กๆ มีหลายห้อง ห้องชั้นล่างมีน้ำไหลผ่านและมีสัตว์น้ำอาศัยอยู่ด้วย เช่น ห้องม่านพระอินทร์ จะมีลักษณะหินย้อยลงมาคล้ายกับม่าน ห้องเข็มนารายณ์ มีลักษณะคล้ายเข็มแท่งใหญ๋ซึ่งวิจิตรงดงามมาก |
--------------------------------------------------------------
ถ้ำพระธาตุ |
อยู่ห่างจากน้ำตกเอราวัณประมาณ 8 กม. ห่างที่ทำการอุทยานฯ ประมาณ 12 กม. เป็นถ้ำขนาดใหญ๋ถื้นถ้ำเรียบมีความยาวประมาณ 200 ม. มีหินงอกหินย้อยงดงามมาก หินส่วนใหญ่จะโปร่งแสง มีหินทรายรูปพระธาตุ หรือรูปนกอินทรีย์หุบปีกตั้งอยู่กลางถ้ำ นอกจากนี้ยังมีเสาเอก เสาโท อยู่ภายในถ้ำอีกด้วย การเข้าชมถ้ำพระธาตุ นักท่องเที่ยวจะต้องติดต่อเจ้าหน้าที่ป่าไม้ ณ ที่ทำการ ซึ่งตั้งอยู่เชิงเขาเพื่อขอให้เจ้าหน้าที่เป็นผู้นำทางให้ |
|
-----------------------------------------------------------------
ถ้ำตาด้วง |
เริ่มจาก จ.กาญฯ ไปตามเส้นทางที่จะไปเขื่อนศรีนครินทร์จนถึงบ้านถ้ำพระธาตุ แล้วเลี้ยวซ้าย ไปยังอำเภอไทรโยค ประมาณ 2 กม. จะมีทางแยกขวาเข้าหมู่บ้าน ซึ่งจะเป็นทางติดกับแม่น้ำแคว และสามารถเข้าไปยังด้านหลังเขื่อนท่าทุ่งนาได้ ระยะทางประมาณ 2 กม. จะถึงเชิงเขาที่มีถ้ำตาด้วง จากนั้นต้องเดินขึ้นเขา ซึ่งค่อนข้างชันมากไปอีก 700-800 ม. เนื่องจากถ้ำนี้มีหินถล่มลงมาปิดปากถ้ำจึงไม่สามารถเข้าไปได้ แต่ลักษณะเด่นของถ้ำนี้มีภาพเขียนอยู่ทีผนังปากถ้ำเป็นรูปคนและต้นไม้ นอกจากนี้ยังพบเศษเครื่องใช้สมัยโบราณยุคหินใหม่ เช่น เศษถ้วย ไห เป็นต้น |
|
--------------------------------------------------------------
ถ้ำหมี |
เป็นถ้ำขนาดใหญ่มีอากาศถ่ายเทพอควร (จากคำบอกเล่าของชาวบ้าน ในอดีตถ้ำนี้เป็นที่อยู่ของหมี ทำให็เรียกต่อๆ มาว่า "ถ้ำหมี") ภายในถ้ำแบ่งเป็นห้องลดหลั่นเป็นชั้นๆ ได้ 5 ห้อง แต่ละห้องจะปรากฏหินรูปร่าง และสีแปลกตามีหินงอก หินย้อยตามผนังถ้ำสวยงามพอสมควร ท่านสามารถเดินทางจากจังหวัดกาญฯ ไปยังบ้านถ้ำพระธาตุ แล้วเลี้ยซ้ายไปทางอำเภอไทรโยค จนถึงทางเข้าบ้านทับศิลาบริเวณหลัก กม.ที่ 10 แล้วเดินทางไปตามทางลูกรังอีก 500 ม. จะถึงบ้านทับศิลาและเข้าซอยสามัคคีธรรม 10 จนถึงคลองตะเคียน จากจุดนี้เดินเท้าไปตามเส้นทางชักลากไม้เก่าต่อไปอีก 7 กม. |
|
--------------------------------------------------------------
ถ้ำเรือ |
เริ่มจากซอยสามัคคีธรรม 10 ข้ามคลองตะเคียนไปประมาณ 100-200 ม. จะมีทางเลี้ยวขวา ซึ่งรถยนต์จะสามารถแล่นเข้าไปได้ประมาณ 200-300 ม. จากนั้นต้องเดินเท้าเข้าไปอีกประมาณ 1 กม. ก็จะถึงถ้ำเรือ ซึ่งเป็นถ้ำที่มีความลึก ประมาณ 40-50 ม. ไม่มีหินงอกหินย้อยแต่จุดเด่นอยู่ที่มีภาชนะที่ใช้รองน้ำสมัยโบราณวางอยู่ ภาชนะนั้นทำจากไม้ทั้งต้น
|
อยู่ห่างจากน้ำตกเอราวัณ ประมาณ 4 กม. ทางตอนบนของแม่น้ำแควใหญ่ เป็นเขื่อนเอนกประสงค์ที่อำนวยประโยชน์ทั้งในด้านการชลประทาน การลดอุทกภัยในลุ่มแม่น้ำแม่กลอง รวมทั้งการผลิตกระแสไฟฟ้า การประมง และเหนือสันเขื่อนยังมีทิวทัศน์ที่สวยงามเหมาะสำหรับเป็นที่พักผ่อนหย่อนใจ เขื่อนศรีนครินทร์อยู่ห่างจากตัวเมืองประมาณ 70 กม. บนทางหลวงสาย 3199 เส้นทางสายกาญจนบุรี-ศรีสวัสดิ์ ทางเขื่อนมีบ้านพักรับรองไว้บริการนักท่องเที่ยวด้วย รายละเอียดติดต่อได้ที่การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย โทร. 4363179 | |
-----------------------------------------------------------------
|
เป็นสวนที่อยู่ภายในเขื่อนศรีนครินทร์ ที่การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทยได้สร้างขึ้นมาเพื่อเฉลิมพระเกียรติและรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณ ในวโรกาสที่สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนีทรงเจริญพระชนมายุครบ 90 พรรษา เมื่อวันที่ 21 ตุลาคม 2533 สวนเวลารำลึกนี้เป็นสวนประติมากรรม บอกเวลาบนลานกว้างของพื้นที่สวน 30 ไร่ของเขื่อนศรีนครินทร์ เป็นเครื่องเตือนใจให้รำลึกถึงคุณค่าแห่งชีวิตที่ก้าวล่วงเวลาทุกนาทีที่ผ่านไป สมดังพระราชหฤทัยของสมเด็จย่าที่ทรงตระหนักเป็นแน่แท้ว่า “เวลาเป็นของมีค่า” ซึ่งควรจะใช้เวลาให้เกิดประโยชน์อย่างเต็มที่ ไม่ควรปล่อยให่ล่วงเลยไปอย่างไร้ประโยชน์ สัญลักษณ์แห่งสวนนี้จึงเป็นนาฬิกาแดดและลานรอบนาฬิกาแดดเป็นประติมากรรม คอนกรีตเสริมเหล็ก ทางเข้าจะเป็นบ่อน้ำพุขนาดใหญ่ บนลานโดยรอบจะมีที่นั่งพักผ่อนเพื่อชมทิวทัศน์ที่สวยงามของเขื่อนศรีนครินทร์ | |
-----------------------------------------------------------------
|
อยู่ภายใต้การดูแลของการไฟฟ้าฝ่ายผลิต ภายในเขื่อนมีบรรยากาศร่มรื่น มีที่พัก สามารถติดต่อได้ที่การไฟฟ้า ก่อนถึงเขื่อนศรีนครินทร์ เราจะพบป้ายบอกทางแยกเลี้ยวซ้ายไปเขื่อท่าทุ่งนา
อุทยานแห่งชาติเฉลิมรัตนโกสินทร์ (ถ้ำธารลอด) |
เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ประกอบด้วยสถานที่ที่น่าสนใจหลายแห่งคือ ถ้ำธารลอดน้อย น้ำตกไตรตรึงษ์ ถ้ำธารลอดใหญ่ น้ำตกธารเงิน น้ำตกธารทอง เขาไม้หอม เขากำแพง เขาพุร้อน และเขาสวรรค์หล่น อุทยานแห่งชาติเฉลิมรัตนโกสินทร์หรืออุทยานแห่งชาติธารลอดนี้มีเนื้อที่ 36,875 ไร่ ประกาศเป็นอุทยานฯ เมื่อวันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2523 เส้นทางเดินป่าในเขตอุทยานฯ แบ่งเป็นสองเส้นทาง เส้นทางแรกจะไปยังถ้ำธารลอดน้อย น้ำตกไตรตรึงษ์ และถ้ำธารลอดน้อย มีลำธารไหลผ่านทะลุถ้ำ ลำธารนี้มีชื่อว่า ลำกระพร้อย ภายในถ้ำมีหินงอกหินย้อยสวยงาม เมื่อพ้นถ้ำธารลอดน้อยออกมาจะเป็นป่า เดินต่อไปอีก 1.5 กม. จะถึงน้ำตกไตรตรึงษ์ ถัดจากน้ำตกไตรตรึงษ์ไปอีกราว 1 กม. จะถึงถ้ำธารลอดใหญ่ อีกเส้นทางหนึ่ง เป็นทางเดินไปยังน้ำตกธารเงินและน้ำตกธารทอง ระยะทางรวม 1.8 กม. | |
-----------------------------------------------------------------
น้ำตกธารเงิน |
เป็นน้ำตกขนาดย่อมลดหลั่นกันเป็นชั้นๆ ถึง 7 ชั้น ใช้เวลาเดินทางจากที่ทำการอุทยานถึงชั้นแรกของน้ำตกนี้ 35 นาที ส่วนน้ำตกธารทองเป็นน้ำตกขนาดใหญ่มี 15 ชั้น ใช้เวลาเดินทางจากที่ทำการอุทยานฯ ถึงชั้นแรกของน้ำตกประมาณ 25 นาทีเท่านั้น
การเดินทางไปยังอุทยานแห่งชาติเฉลิมรัตนโกสินทร์ ซึ่งอยู่ห่างจากตัวเมืองกาญจนบุรี 97 กม. เมื่อถึงจังหวัดกาญจนบุรีให้ขับตรงไปประมาณ 7 กม. แล้วเลี้ยวขวาเข้าเส้นทางกาญจนบุรี-ทุ่งมะสังข์ ประมาณ 23 กม. จากนั้นแยกเข้าทางหลวงหมายเลข 3086 ผ่านอำเภอบ่อพลอยไปยังกิ่งอำเภอหนองปรือ เมื่อถึงตลาดหนองปรือจะมีป้ายบอกทางไปยังถ้ำธารลอดอีก 19 กม. ทางราดยางตลอดสาย ถ้าใช้บริการรถประจำทาง มีรถประจำทางจากสถานีขนส่งกาญจนบุรีไปยังตลาดหนองปรือ จากนั้นต้องเช่ารถสองแถวที่ตลาดหนองปรือไปยังอุทยานฯ ค่าเข้าชม ชาวไทย 5 บาท ชาวต่างประเทศ 25 บาท ในเขตอุทยานฯ มีบ้านพัก และสถานที่ตั้งเต็นท์ไว้บริการนักท่องเที่ยว รายละเอียดสอบถามได้ที่กองอุทยานแห่งชาติ กรมป่าไม้ โทร. 579-0529 และ 579-4842 |
| |
|
|
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น